อีกราย ตำรวจหนุ่ม เล่าป่วยโรคมะเร็งปอด ระยะลุกลาม เจ้าตัว เผยชอบออกกำลังกาย ไม่สูบบุหรี่ พร้อมเปิดเผยใจสำคัญ “ยาดีเพียงใด หากใจไม่ดีไม่ได้ผล”
จากกรณี นพ.กฤตไท ธนสมบัติกุล อาจารย์ ประจำศูนย์ ระบาดวิทยาคลินิกและสถิติศาสตร์คลินิก สาขาวิชาเวชศาสตร์ครอบครัว คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเพจ “สู้ดิวะ” แชร์ เรื่องราว
หมอป่วยโรคมะเร็งปอด ระยะสุดท้าย ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ เป็นคนสูบบุหรี่ อายุยังน้อย แค่ 28 ปี ดูแลตัวเอง
รวมทั้ง ออกกำลังกาย แต่ว่าก็กลับป่วยด้วย โรคร้าย กระทั่งทำให้สังคม ตื่นตัว
รวมทั้งให้ความสนใจ เป็นอย่างมาก ปัจจุบัน มีตำรวจอีกราย เป็น พ.ต.ต. รุ่งคุณ จันทโชติ สารวัตร
(สอบสวน) กองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม การกระทำผิดเกี่ยวกับ อาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ออกมา เปิดเผยเรื่องราวของตนเอง ผ่านเฟซบุ๊ก รุ่งคุณ จันทโชติ เล่าเรื่อง
ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง ระยะลุกลาม พร้อมที่ส่งต่อกำลังใจ ให้กับคนที่กำลัง ต่อสู้กับ โรคร้ายเช่นกัน
ตำรวจหนุ่ม แชร์ประสบการณ์ การต่อสู้กับ “โรคมะเร็งปอด” ที่เกิด โดยไม่รู้ สาเหตุ
แผ่ขยายไปต่อมน้ำเหลือง ตับ จนถึงกระดูก เตือนทุกอย่าง ในชีวิตไม่แน่นอน แต่ว่าหากเกิดขึ้นแล้ว จะต้องมีสติ
วันที่ 13 พ.ย. 2565 จากรณีที่ “หมอหนุ่ม” หมอกฤตไท ธนสมบัติกุล วัย 28 ปี ที่เปิด เพจเฟซบุ๊ก สู้ดิวะ เพื่อเล่า ประสบการณ์ป่วยด้วย “โรคมะเร็งปอด ระยะสุดท้าย” กระทั่งทำให้โซเชียล แห่ส่งกำลังใจ
ต่อมา ผู้ใช้เฟซบุ๊ก รุ่งคุณ จันทโชติ ก็ได้ มาให้ข้อคิด กับกรณีดังกล่าว ระบุใจความว่า ในวันที่ ยังออกกำลังกายได้ ออกเถอะเชื่อผม เพราะว่า
วันที่ได้แต่ ดูผู้อื่น ออกกำลังกาย มันทรมาน เสียจริง ๆ งานอะไรที่ทำให้เสียสุขภาพ จงรักษา สมดุลชีวิตให้ดี สุขภาพหาซื้อไม่ได้ เชื่อผมเถอะ
เวลาตกเหว คุณไม่ได้ ตั้งตัวหรอก เชื่อผมเถอะ ทุกอย่างมันจะ ประดังเข้ามา แต่ว่าขอให้ คุณมีสติ ใจชนะ อะไรมัน ก็ชนะ เคยกำหนดเป้าหมาย ในชีวิตอะไร มากมาย แล้ววันนึง
คุณจะเข้าใจ ว่า ตื่นมา มีลมหายใจ ในวันใหม่ ก็เป็นสุขแล้ว มันเริ่ม จากปอด ไปต่อมน้ำเหลือง ไปตับ ไปกระดูก แต่ว่าอย่างที่บอก หากใจไม่ได้ ยาอะไรก็ช่วยไม่ได้
ทั้งนี้ ยังได้โพสต์ เล่าเรื่องราว การป่วย เป็นโรคมะเร็งของตนเองว่า เป็นตำรวจ ทำงานหนัก พักผ่อนน้อยคือเรื่องปกติ แต่ว่าชอบออกกำลังกาย เป็นชีวิตจิตใจ ถึงกับขนาดเสพติด เลยก็ว่าได้ กินเหล้า พบปะบ้าง ตามประสาวัยรุ่น แต่ว่าไม่สูบบุหรี่ ที่บ้านก็ไม่มีใครดูด
เค้าจับแอดมิต ให้ยา แก้อักเสบ 6 วัน ก็ไม่หาย เลยเจาะ ชิ้นเนื้อที่ คอไปตรวจ อีกอาทิตย์นึง ผลออกเป็นโรคมะเร็งปอด ระยะลุกลาม ไปต่อมน้ำเหลือง ช็อกเลยจริง ๆ แต่ว่าขณะนั้นมีสติดีมาก ไม่ท้อเลย คิดหาทางแก้ไข อย่างด่วน
ขั้นตอนการรักษาเป็น คีโม (เคมีบำบัด) ฉายรังสี (ฉายแสง) บริเวณ อก โอ้โห อธิบายความทรมาน ออกมาเป็นคำพูด ไม่ได้เลย
รับประทานไม่ได้ นอนไม่หลับ แสบหลอดอาหาร ตื่นทุกชั่วโมง จะต้องนอนคว่ำเท่านั้น แต่ว่า ไม่เป็นไร อดทน มั่นใจว่ามันต้องหาย
หมอมาร์กจุด เตรียมฉายแสง ผมร่วงจริง ๆ แต่ว่ามันค่อย ๆ ร่วง (ในภาพ คือโกนผมซะเลย) มันร่วงเป็นหย่อม ๆ นี่ฉายแสง เกือบจะครบคอร์ส 33 ครั้ง คอไหม้ แต่ว่าคิดบวกเข้าไว้ อย่าท้อ อย่าหมกอยู่
แต่ในห้อง ออกมา สูดอากาศ สวนสาธารณะบ้าง แต่ว่าเดี๋ยวนี้ คือวิ่งไม่ได้แล้ว หอบ เหนื่อย ไอเยอะ เลยได้ แต่เดิน ๆ แกว่ง ๆ แขน ดูผู้อื่น ออกกำลังกาย มันก็ทรมานดี
เข้าเครื่อง PET Ct ดูว่า การรักษา ตอบสนองมั้ย ช็อกอีกครั้ง ไม่ตอบสนองเลย เซลล์เนื้อร้าย ขนาดเท่าเดิม 1.4 ซม. ในปอด ยังไม่พอ กระจายไปตับ อีกหลายจุด กระจาย ไปกระดูกสันหลัง อีกจุดนึง
ขณะนั้นเป็น ใจมันตกไป อยู่ตาตุ่มจริง ๆ หมอบอกอาจจะจะต้อง เปลี่ยนแนวทาง รักษาจากที่ จะให้หายสนิท เป็นประคองไปเรื่อย ๆ ก็คือ อาจจะคีโม ไปเรื่อย ๆ
(ในใจคือปล่อยแล้วนะ อะไรจะเกิด ก็จะต้องเกิด) แต่ว่าในความโชคร้าย มันก็ยัง มีความโชคดี หมอเอาชิ้นเนื้อที่ เคยเจาะไว้ ไปตรวจ ด้วยการย้อมสี เพิ่ม จึงรู้ว่า เซลล์กลายพันธุ์ ชนิด ALK
ซึ่ง เจอน้อยมาก ในชาวเอเชีย (ตอนนี้ ยังหาสาเหตุไม่ได้เลย ว่าเป็นโรคมะเร็ง จากสาเหตุใด)
หมอแจ้งว่า มียา มุ่งเป้า (targeted therapy) ซึ่ง มันจะไปกด ให้เซลล์ร้าย สงบ แล้วก็ใช้ชีวิต กับมันไปเรื่อย ๆ กินยาตลอดชีวิต
จนกว่าจะดื้อยา ก็ทดลอง ยาตัวนี้ มาได้เดือนกว่า ๆ แล้ว รู้สึกดีขึ้นนะ เพลียลดน้อยลง
เริ่มออกกำลังกายได้ดี มากขึ้นเรื่อย ๆ ก็ขอให้มันตอบสนอง และก็อาจจะจะต้อง กอดคอกัน ไปกับมัน มีเวลาว่าง ก็เลยหันมาพึ่ง ทางธรรมบ้าง ขอขอบคุณ ทุกกำลังใจ ทุกคำอวยพร มันช่วยได้จริง ๆ นะ
ต้องการจะ ฝากถึงทุก ๆ คน ทุก ๆ อย่างในชีวิต ไม่แน่ไม่นอนจริง ๆ แต่ว่าหาก เกิดขึ้นแล้ว จะต้องมีสติ เตรียมรับมือ รวมทั้ง สิ่งที่ต้องการจะบอก กาดอกจันทร์ 100 ดวง คือคำว่า “ใจ”
ใจมันจะต้องได้นะ ยาจะดีเพียงใด แต่ว่าหากใจไม่ได้ ยามันก็ไม่ได้ผลหรอก.
โรคมะเร็งปอด เป็นผลมาจาก การเจริญเติบโตของ เซลล์ที่ผิดปกติ อย่างรวดเร็ว
ไม่สามารถ ควบคุมได้ ส่งผลให้เกิดเป็นกลุ่มก้อน ของเซลล์ที่ ผิดปกติ ซึ่งจะตรวจเจอ ได้เมื่อมี ขนาดใหญ่ มีจำนวนมาก รวมทั้ง แพร่ไป ตามบริเวณ ต่าง ๆ ของร่างกาย โรคมะเร็งปอดจะทำลาย ชีวิตของผู้เจ็บป่วย ได้รวดเร็วเพียงใด ขึ้นกับชนิด ของโรคมะเร็ง
โรคมะเร็งปอด แบ่งได้เป็น 2 ชนิด ตามขนาดของเซลล์ ซึ่ง ความต่างของขนาด เซลล์นี้มีความสำคัญ
ด้วยเหตุว่า วิธีการ รักษาจะไม่เหมือนกัน
1.โรคมะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็ก (small cell lung cancer) เจอได้ประมาณ 10-15% เซลล์จะ เจริญเติบโตรวมทั้ง แพร่ขยายได้รวดเร็ว กว่าโรคมะเร็งปอด
ชนิด ไม่ใช่เซลล์เล็ก ทำให้ผู้เจ็บป่วยเสียชีวิต ได้อย่างรวดเร็ว การรักษาจะ ไม่ใช้วิธีการผ่าตัด ส่วนมาก รักษาด้วยการใช้ ยาหรือฉายรังสี
2.โรคมะเร็งปอดชนิดไม่ใช่เซลล์เล็ก (non-small cell lung cancer) พบได้บ่อยกว่า โรคมะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็ก (เจอได้ประมาณ 85-90%) แต่ว่าแพร่ขยาย ได้ช้ากว่า รวมทั้งสามารถรักษา ให้หายได้โดย การผ่าตัดหาก เจอตั้งแต่เนิ่น ๆ
“โรคมะเร็งปอด” เป็น โรคมะเร็ง ที่พบได้มาก ที่สุดทั่วโลก
แพทย์วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ บอกว่า “โรคมะเร็งปอด” เป็น โรคมะเร็ง ที่พบได้มาก ที่สุดทั้งโลก สำหรับประเทศไทย เป็น 1 ใน 5 ของ โรคมะเร็ง
ที่พบได้ มาก เป็นอันดับ 2 ในเพศชาย รวมทั้งอันดับ 5 ในเพศหญิง แต่ละปี จะมีผู้เจ็บป่วย รายใหม่ราว ๆ 17,222 ราย
เป็นเพศชาย 10,766 ราย และ เพศหญิง 6,456 ราย ซึ่ง ในจำนวนนี้ มีคนเสียชีวิต ราว ๆ 14,586 ราย หรือ คิดเป็น 40 ราย ต่อวัน
ปัจจัยเสี่ยง ที่สำคัญของโรค “โรคมะเร็งปอด” เป็น การสูบบุหรี่ หรือ การได้รับควันจากบุหรี่มือสอง การสัมผัสสาร ก่อโรคมะเร็ง เช่น
ก๊าซเรดอน แร่ใยหิน รังสี ควันธูป ควันจากท่อไอเสีย รวมทั้ง มลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะอย่าง ฝุ่น PM2.5 ฯลฯ
ข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก รุ่งคุณ จันทโชติ