ตำรวจเผย เด็กหญิงลูกครึ่งเดินเท้าไปสนามบิน ไม่พบถูกทำร้าย
แต่พ่อเข้มงวด ถามลูกคำแรก ทำการบ้านหรือยัง? เด็กก็เอาการบ้านขึ้นมาทำโดยทันที
จากกรณีผู้ใช้ Tiktok ได้โพสต์คลิปวิดีโอ ขณะพบเจอเด็กหญิงชาวต่างชาติลูกครึ่งจีน-อเมริกัน อายุ 10 ปี เดินเท้าอยู่ข้างถนน และพยายามสื่อสาร ก่อนประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเหลือ กระทั่งเด็กคนนี้ปลอดภัย ส่วนสาเหตุนั้น เด็กหญิงต้องการเดินทางจากที่พักย่านจอมเทียน ยังสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อบินไปพบแม่ที่เมืองจีน เนื่องจากว่าคิดถึงแม่มาก
ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 ก.ย.65 ภายหลังมีกระแสข่าวออกไป
ทั้งยังสื่อและโซเชียลช่องต่างๆมีผู้คนแล้วก็ชาวเน็ตตั้งขอสงสัยว่า เด็กหญิงอาจมีปัญหาที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับทางบ้านหรือไม่ อีกทั้งเรื่องประเด็นการทารุณกรรม หรือทำร้ายร่างกาย แล้วก็อื่นๆถึงขนาดจำเป็นต้องแอบหนีออกจากบ้านเพียงลำพัง
โดยนักข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พันตำรวจโทพิชญะ เขียวเปลื้อง สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวพัทยา ว่า ทางตำรวจท่องเที่ยวนั้นมิได้ละเลยในประเด็นนี้ หลังจากส่งตัวเด็กหญิงรายนี้คืนให้กับพ่อชาวอเมริกัน ทางตำรวจท่องเที่ยวได้ติดตามไปยังบ้านพักของเด็กหญิง เป็นโรงแรมย่านจอมเทียน เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี เพื่อตรวจสอบข้อสรุปอย่างต่อเนื่อง วันนี้ได้เข้าพบพ่อชาวอเมริกัน พบว่า ไม่ค่อยให้การตอบรับเจ้าหน้าที่สักเท่าไหร่ ส่วนเด็กหญิงนั้นไปโรงเรียนปกติ
โดยจากการสอบถาม พนักงานโรงแรมหลายๆคน เปิดเผยว่า พ่อลูกชาวต่างชาติรายนี้ ได้อาศัยอยู่ที่โรงแรมแห่งนี้ มากว่า 3 ปีแล้ว โดยเด็กหญิงลูกครึ่งได้เรียนอยู่ที่โรงเรียนนานาชาติแห่งหนึ่ง ส่วนพ่อชาวอเมริกันเป็นคนไม่ค่อยพูดและออกจะเข้มงวดสำหรับกิจวัตรประจำวันในทุกวัน เด็กหญิงจะลงมากรอกน้ำดื่มเวลาประมาน ตี4-ตี5 แล้วก็ทานอาหารเช้าพร้อมกับพ่อเวลาประมาน 6 โมงเช้า บางวันจะมีการขี่จักรยานแล้วก็เดินออกกำลังกายบ้าง แล้วก็เด็กหญิงจะลงมาทำการบ้านที่หน้าบริเวณโถงด้านล่างโรงแรมอยู่หลายครั้ง
ส่วนความประพฤติปฏิบัติที่น่าสงสัยหรือไม่ปกติ อย่างการทำร้ายร่างกาย หรือทารุณกรรม ไม่เคยประสบพบเห็นแต่อย่างใด เป็นพ่อลูกชาวต่างชาติทั่วไป แต่เพียงพ่อค่อนข้างจะมีระเบียบแล้วก็เข้มงวดเพียงเท่านั้น
ซึ่งข้อมูลนี้ ตรงกับที่เจ้าหน้าที่ท่องเที่ยวและกีฬาจ.ชลบุรีได้พบเห็นขณะดูแลเด็กหญิงต่างชาติ เมื่อพ่อชาวต่างชาติได้มารับตัวที่สถานีตำรวจท่องเที่ยว ได้กล่าวคำแรกว่า ทำการบ้านรึยัง? แล้วเด็กหญิงได้ตอบรับโดยการนำการบ้านในกระเป๋าขึ้นมาทำอย่างตั้งใจ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมีระเบียบแล้วก็เข้มงวดของผู้เป็นพ่อ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวจะคอยติดตามเยี่ยมเยียนพ่อลูกต่างชาติ เพื่อตรวจสอบให้มั่นใจว่า ไม่มีความผิดปกติต่อไป